สุดยอดนักกัด

 กว่าจะฝึกงาน กว่าจะลงเวรที่โรงพยาบาลสัตว์ กว่าจะเรียนจบ  บรรดาหมอหมา , หมอหมู , หมอไก่ , หมอวัว , หมอจิ้งจกตุ๊กแก (ไม่มีหรอกครับ) ฯลฯ ทั้งหลาย ทั้งหน้าเด็กหน้าแก่มีอันต้องได้รับบาดแผลจากการรักษากันถ้วนหน้า ไม่มากก็น้อย เพื่อนหมอคนนึงไปตรวจม้าพอ
ตรวจเสร็จออกจากคอก ม้าเจ้ากรรมดันกัดที่แก้มก้นเข้าให้ น่าสงสารยิ่งก้นดำอยู่ด้วย
ยิ่งก้นดำแล้วมีแผลเป็นละก็….. หมอที่ไม่ค่อยมีบาดแผล แสดงว่ามันโดดเรียนหรือโดดการ
ขึ้นหวอดไปจีบหญิง  ถ้าเป็นหมอผู้หญิงก็คงโดดไปกินส้มตำแน่เลย

เมื่อเดือนที่แล้วมีการนัดเลี้ยงรุ่น  พอพบปะกันตอนหัวค่ำการทักทายโดยสุภาพเกิดขึ้น
"นายเป็นยังงัยบ้าง ส่วนผมสบายดี" แหมสุภาพดีจัง แต่พอหลัง 5 ทุ่ม ทุกคนชักเริ่มเมาโค๊ก
 ภาษาที่อยู่ในกมลสันดานก็เริ่มออก สรรพนามสุภาพ ๆ นั่งแท็กซี่กลับบ้านกันไปหมด จาก
นาย , คุณ , ผม กลับกลายเป็น มึง , กู เหมือนเดิม  วันนั้นมีการอวดบาดแผลจากการรักษา
มีโชว์กันว่าใครถูกอะไรกัดมาบ้าง ทำให้หมอนึกขึ้นได้ว่าน่าจะจัดลำดับสุดยอดนักกัดดู
แต่บอกก่อนนะครับว่าเป็นการลงความเห็นกันเล่น ๆ ในหมู่นายสัตวแพทย์กลุ่มหนึ่งเท่านั้น

อันดับ 1 บางแก้ว  หมาไทยพันธุ์แท้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่รู้เป็นยังงัยซินะถึงได้
ขี้ระแวงขนาดนั้น ถ้าบรรดาหมอไม่ถูกแว้ง ก็ถูกกัดกันเลยครับ  โดยปกติพอหมาขึ้นโต๊ะ
ตรวจ มันจะสั่นเป็นเจ้าเข้า แต่บางแก้วเขามักจะเปลี่ยนความกลัวเป็นความดุและระแวด
ระวัง

อันดับ 2 พันธุ์ผสมอัลเซเชียน หมาอะไรก็ได้ที่ผสมกับอัลเซเชียน มักจะดุหรือไม่ก็ไม่ค่อย
กลัวอะไรง่าย ๆ ถึงขนาดในออสเตรเลีย , นิวซีแลนด์ และอีกบางประเทศมีกฎหมายห้าม
เลี้ยงหมาพันธุ์ผสมนี้กันเลยละครับ (ในออสเตรเลีย จะอยู่ในอันดับ 3 ของการฟ้องร้องเรื่อง
คดีหมากัดคนครับ)

อันดับที่ 3 ล็อตไวเลอร์  พันธุ์นี้หากเลี้ยงดี ๆ ได้พบเจอชาวบ้านบ้างกลับน่ารัก แต่หากกักขัง
มาก ๆ จะดุมากครับ

อันดับ 4 ไทยหลังอาน  พี่ไทยเราอีกแล้ว พันธุ์นี้จะเป็นนักเที่ยวตัวยงเลยครับ เขารักอิสระ
มาาาาาก  เคยคุยกับพี่ ๆ ที่สุนัขตำรวจเขาบอกว่าพวกโกลเด้น , ลาบาดอร์ , อัลเซเชียน
เขาฝึกแค่ 3 เดือนก็พอโชว์ใครต่อใครได้แล้ว แต่ถ้าหมาไทยละก็ต้องใช้เวลา 5-6 เดือน
แหม ! มันน่าภูมิใจไหมเนี่ย !

อันดับ 5  พันธุ์ผสม ทั้งตำราในตำรานอกเขาบอกว่ามักมีโอกาสที่จะทำให้หมาดุ อันนี้ตำรา
เขาบอกนะครับ

อันดับ 6  เชาว์ เชาว์ จริง ๆ ในประเทศจีนและเกาหลีเหนือ เขาเลี้ยงเอาไว้กินเป็นอาหาร
ในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นหมาพันธุ์นี้จึงไม่ค่อยชอบให้ยุ่งกับเขามากนัก ชอบสันโดษนั่นแหละ
**โดยเฉพาะสายเก่า** ขนาดเจ้าของเห็นว่ากินไม่อิ่มจะเติมอาหารให้มันยังจะกัดเอาเลย
นอกจากนั้นเชาว์ยังติดอันดับ 1 ด้าน เจ้าต้องการเลิกเลี้ยงมากที่สุด เพราะเด็กจะน่ารักมาก
พอโตขึ้นมันดุจ้า

อันดับ 7  อเมริกัน พิทบูล โดยความคิดส่วนตัวแล้ว พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่มีปัญหากับหมาด้วยกันมากกว่า (กัดหมาด้วยกัน) กับคนแล้วเขาชอบเล่นชอบกระโจนเข้าหาจนน่ากลัว  ยกเว้นถูก
ฝึกมาให้กัด  แต่จัดเป็นหมาที่มีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายเป็นอันดับ 1 เลยนะครับ

อันดับ 8  บูลเทอร์เรีย  พันธุ์นี้ก็คล้ายกับอเมริกัน พิทบูล จะมีแรงเยอะมาก และมีอารมณ์
แปรปรวนเป็นอันดับ 2 แต่ชอบวิวาทกับหมาอื่นเอามาก ๆ ขนาดที่คลินิกมีบูลเทอร์เรียขา
หักมานอนใส่เฝือกอยู่ พอเห็นหมาอื่นมาพ่อจ้าประคุณกระโดดลงจากโต๊ะไปกัดเขาทั้ง ๆ
ที่ตัวเองใส่เฝือกอยู่เลย

อันดับ 9  อัลเซเชียน หรือ เยอรมันเชพเพิร์ด  หลายคนคงคิดว่าน่าจะดุอันดับต้น ๆ ไม่หรอกครับ เขาเป็นหมาที่ตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมมาก และ มักไตร่ตรองก่อนลุยเสมอ

อันดับ 10  พันธุ์อื่น ๆ เช่น โดโก อาเจนติโน , ฟิลล่า ฯ และตระกูลมาสตีฟทั้งหลาย
เนื่องจากมีคนเลี้ยงไม่มากการจัดอันดับเลยทำได้ยาก รออีกสักพักนะครับ ถ้าหมอถูกมันกัด
เมื่อไรอันดับของมันคงเลื่อนขึ้น

เจ้าของหมาพันธุ์เหล่านี้อย่าเพิ่งมาด่าหมอนะครับ เป็นเพียงการจัดอันดับจากการผู้คุยว่า
ใครเจออะไรกัดมาบ้าง  ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูเป็นหลักครับ หากจะมาปาระเบิดหมอ
ละก็รอให้มีงานเลี้ยงรุ่นคราวหน้าค่อยปาระเบิดนะครับหมอปากเสียทั้งหลายจะได้ตาย
พร้อม ๆ กัน